ภัยจากSpywareและ Adware (Spyware and Adware Threat)
ปัจจุบันโปรแกรมมุ่งร้าย หรือ MalWare ไม่ได้มีเฉพาะโปรแกรมไวรัสคอมพิวเตอร์เท่านั้น หากแต่มีโปรแกรมอีกจำพวกหนึ่งเรียกว่า โปรแกรมสายลับ หรือ "Spyware" ซึ่งมักจะทำงานร่วมกับโปรแกรมโฆษณา หรือ "Adware" โดยโปรแกรม Spyware บางครั้งถูกออกแบบมาโจมตีเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยเฉพาะที่เราเรียกว่า "Targeted attack Spyware" มักจะมาในรูปแบบของโปรแกรมที่ดูเหมือนจะเป็นโปรแกรมที่ดี เช่น โปรแกรม WINZIP version ใหม่ล่าสุด, โปรแกรมฆ่าไวรัสล่าสุด จากบริษัทกำจัดไวรัสชื่อดัง หรือ โปรแกรม Patch ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ ส่งมาให้เราติดตั้งผ่านทาง email โดยมาในรูปของไฟล์แนบที่เป็นนามสกุล .EXE ซึ่งโปรแกรมทั้งสามลักษณะดังกล่าวนั้น ทางวิชาการเรียกว่า โปรแกรมม้าโทรจัน หรือ "Trojan Horse Program" เป็นรูปแบบหนึ่งของ "Spyware" ที่ต้องการหลอกเราโดยวิธี "Social Engineering" ให้เราหลงเข้าใจผิดว่าเป็นโปรแกรมที่ดีมีประโยชน์ แต่จริงๆแล้วกลับกลายเป็นโปรแกรมสายลับเข้ามาแอบขโมยข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราโดยไม่รู้ตัว บางครั้ง Spyware จะส่งข้อมูลให้กับบริษัทโฆษณา ต่าง ๆ เพื่อนำเอาโฆษณา (ที่เราไม่อยากดูเท่าไร) มา "POP-UP" ให้เราเห็นบนจอภาพ หรือ หลอกล่อให้เราเข้าไป "Click" เพื่อหาทาง "Make Money" จากการที่เราหลงและเข้าไปเยี่ยมชม Web site ต่าง ๆ ทางที่ทางโปรแกรม Adware จัดให้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่อยู่ ๆ จะมี email ส่งมาโฆษณาสินค้าบางอย่างที่เราสนใจโดยโปรแกรม Spyware จะวิเคราะห์พฤติกรรมของเราจากไฟล์ "Cookie" ซึ่งเป็น Text File เล็ก ๆ อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา โดยที่โปรแกรม Spyware จะแอบอ่านข้อมูลพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของเราจากไฟล์ Cookie แล้วส่งข้อมูลกลับไปให้บริษัทวิจัยตลาด หรือ บริษัทโฆษณาให้ทำการวิเคราะห์ ซึ่งในบางครั้ง Spyware จะมีไฟล์ Cookie เป็นของตนเองในการติดตามพฤติกรรมของเรา เรียกว่า "Spyware Cookie" ซึ่งโปรแกรมกำจัด Spyware หลายๆโปรแกรมจะแสดงเป็นโปรแกรม Spyware แต่จริง ๆ แล้วเป็นเพียง Text File เล็ก ๆ ที่คอยติดตาม "Track" พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าตรวจสอบพบ Spyware Cookie ก็ควรจะลบทิ้งแต่ไม่ต้องตกใจมากนักเพราะไม่มีผลกระทบรุนแรงกับเครื่องของเราเหมือนพวกไวรัส
การป้องกันไม่ให้เครื่องติด Spyware หรือ Adware เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้งานอินเทอร์เน็ตเสียใหม่ โดยระมัดระวังในการดาวน์โหลดไฟล์มากขึ้น ไฟล์นามสกุล .EXE หรือ .COM นั้นไม่ควรดาวน์โหลดเป็นอย่างยิ่ง (รวมทั้งไฟล์นามสกุล .CMD, .BAT, .HTA, .VBS, .SCR, .PIF) และ เรายังต้องระวังไม่ไปเข้าเยี่ยมชม Web site ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักโดยเฉพาะเว็บไซด์ภาพโป๊ เว็บไซด์พนัน หรือ เว็บไซด์ที่เกี่ยวกับการ Crack Software หรือ Crack Serial Number รวมถึงการ Crack Game ด้วย เพราะเว็บไซด์เหล่านี้จะร่วมมือกับผู้สร้าง Spyware และ บริษัทโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของเรา และ ในบางครั้งอาจจะแอบขโมย ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างของเราไปโดยไม่รู้ตัว
โปรแกรม Spyware ที่ส่งผลกระทบรุนแรงที่สุด ก็คือ โปรแกรมประเภทแอบดักข้อมูลหน้าจอ และดัก Key Stroke ที่เราพิมพ์ทางคีย์บอร์ด เรียกว่า โปรแกรม "Keylogger" โดยโปรแกรมดังกล่าวจะถูกติดตั้งบนเครื่องเราได้ 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง ติดจากการที่เราเผลอเปิดไฟล์แนบที่เป็น Executable File เช่น ไฟล์นามสกุล .EXE, .COM, .SCR หรือ .PIF เป็นต้น วิธีที่สอง ซึ่งเป็นวิธียอดนิยมของแฮกเกอร์คือ การแอบติดตั้งโปรแกรมตอนที่ผู้ใช้งานไม่อยู่หน้าเครื่อง คือ ผู้ใช้เปิดเครื่องทิ้งไว้ โดยไม่ Lock หน้าจอ เช่น ผู้ใช้ลุกไปชงกาแฟสัก 5 นาที จากนั้น แฮกเกอร์จะอาศัยเวลาที่เราเผลอทำการติดตั้งโปรแกรม Keylogger ดังกล่าวผ่านทาง USB Drive ซึ่งใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งนาทีก็เรียบร้อยจากนั้น เมื่อเรากลับมาที่เครื่องก็ดูเหมือนทุกอย่างเป็นปกติซึ่งจริง ๆ แล้วเรากำลังโดนแอบดูอย่างใกล้ชิด ทั้งข้อมูลหน้าจอและคีย์บอร์ดจะถูกส่งผ่านทาง email ไปหาแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ เช่น แฮกเกอร์อาจตั้งเวลาส่งทุก 5 นาที เป็นต้น
วิธีการแก้ปัญหาก็คือ การใช้โปรแกรมประเภท Anti-Keylogger เช่น โปรแกรม PrivacyKeyboard หรือ โปรแกรม Advanced Anti-Keylogger เป็นต้น ในปัจจุบันโปรแกรมกำจัดไวรัสรุ่นใหม่ ๆ หลายโปรแกรมสามารถตรวจจับโปรแกรม Keylogger ได้โดยอัตโนมัติ ก็สามารถช่วยป้องกันได้เช่นกัน
Refer to http://www.acisonline.net/article_prinya_eweek_010650.htm
싼야민공- Phomthong's LiveTV 3G+ Online
phomthong on livestream.com. Broadcast Live Free
Virus Computer Killer Chat
Tuesday, 2 February 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment